แบรนด์ คาร์เทียร์ Cartier  รับซื้อนาฬิกา

แบรนด์ คาร์เทียร์ Cartier อยู่ในวงการนาฬิการะดับสูงมาอย่างยาวนาน จนใครหลายคนอาจหลงลืมไปว่าแบรนด์ Cartier สามารถผลิตนาฬิกากลไกสุดพิเศษรูปแบบต่างๆ ในอดีตเราจะเห็นคอลเลคชั่นที่ผลิตเน้นการดีไซน์ต่างๆ มากกว่าด้านกลไกซับซ้อน แต่แล้ววันหนึ่ง Cartier ก็ได้หันกลับมาโดยนำอดีตและประวัติศาสตร์ด้านกลไกของตนมาปัดฝุ่นใหม่เสริมความยอดเยี่ยมอีกครั้งและทำให้ปี 2012 นี้ เราได้เห็นกลไกสุดพิเศษแบบต่างๆ ที่บรรจุอยู่ในคอลเลคชั่น Rotonde de Cartier

เสียงแห่งความไพเราะ

            นับถอยหลังไป 5 ปีที่แล้ว Cartier ได้ทุ่มเทเริ่มต้นพัฒนากลไกมินิทพีทเตอร์ ฟลายอิ้งตูร์บิยองสุดยอดเยี่ยมขึ้น และเป็นการคารวะแก่กลไกลต้อนแบบที่ Cartier ผลิตในนาฬิกาตั้งโต๊ะในปี 1908 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง อันที่จริงแล้วกลไกมินิทรีพีทเตอร์นั้นได้เริ่มต้นประดิษฐ์มาตั้งแต่ ปี 1680 โดยช่างนาฬิกาชาวอังกฤษ Daniel Quare และได้รับความนิยมนับแต่นั้นมา ในปัจจุบันกลไกแบบมินทรีพีทเตอร์นั้นยังได้รับความนิยมเช่นเดิม แต่จะอยู่ในกลุ่มของนาฬิการะดับสูงที่นักสะสมเน้นเสียงตีบอกอันไพเราะ เสียงลานกลไกที่เงียบนิ่ง และกลไกการทำงานแบบสลับซับซ้อน

            Cartier ได้ออกแบบให้ระบบตีบอกของ Rotonde de Cartier Minute Repeater Flying Tourbillon ด้วยความพิถีพิถันที่สุด  โดยกำหนดให้ตัวเรือนนาฬิกาทำหน้าที่เป็นกล่องเพลงที่สามารถขยายเสียงดีได้อย่างไพเราะ แม้ด้านหลังตัวเรือนจะเป็นกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ใสก็ตาม โดยเลือกใช้ตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตร ผลิตจากไทเทเนียม เกรด 5 หรือทองคำชมพูที่ขัดเงาราวกับกระจก น้ำหนักประมาณ 32 กรัม สามารถสร้างเสียงตีบอกด้วยความดังประมาณ 68 เดซิเบล เทียบเท่ากับเสียงเปียโนที่บรรจงเล่นอย่างพลิ้วไหว ความลับของการออกแบบนั้น วิศวกรของ Cartier ได้ออกแบบให้ตัวเรือนภายในมีสภาพอคูสติกที่ดีที่สุดเท่าที่ออกแบบให้มีน้ำหนักและรูปทรงเหมาะสมกับกลไก และสภาพคูสติกไปพร้อมๆกัน โดยใข้กลไกลพิเศษที่ควมคุมแรงเฉื่อย และแรงเสียดทานของความเร็วรอบของการหมุน (Inertia and Friction Governor) ที่สามารถควบคุมการตีบอกได้แม่นยำ และเสียงลานทำงานที่เบาเงียบ รวมถึงกำลังการตีที่มั่นคงโดยไม่ลดทอนลงเมื่อตีบอกในแต่ละเฟส

            การตีบอกเวลานั้นจะแบ่งเป็น 3 เฟส ด้วยกัน โดยตีเสียงที่แตกต่างกัน 2 ระดับ เฟสแรกของการตีจะเป็นการบอกชั่วโมงด้วยระดับเสียง โลว์ พิซ (Low-pitched) และเฟสที่ 2 จะตีบอกควอเตอร์ของชั่วโมงด้วยระดับเสียง ไฮ พิซ (High-pitched ) และตามระดับเสียงด้วยโลว์ พิซ (Low-pitched) และบอกเศษของนาทีที่เหลือด้วยระดับเสียง ไฮ พิซ (Low-pitched) กลไลการตีบอกทั้งหมดสามารถเห็นได้จากด้านหน้าของหน้าปัดที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ที่เผยให้เห็นค้อนทั้ง 2 ชิ้น พร้อมลานหมุนคั่นระหว่างกลางและตำแหน่ง 12 นาฬิกา จะเป็นช่องเว้าของหน้าปัดที่เปิดให้เห็นการทำงานของระบบฟลายอิ้งตูร์บิยอง ทำงานที่ความถี่ 21,600 VPH ด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาดทำให้ตัวกลไกลการกดนั้นเป็นลักษณะเฉพาะตัว ด้วยปุ่มกดฟังก์ชั่นมินิทรีพีทเตอร์ที่ตำแหน่ง 8 นาฬิกา แตกต่างจากระบบทั้งไปที่ใช้คันสไลด์ด้านข้างตัวเรือน ในการสั่งการทำงานที่ทำให้ตัวเรือนมีขนาดกว้างขึ้นและระบบกลไกการตีจะต้องมีความซัมซ้อนและใช้พลังงานมากกว่าเดิม กลไกมินิทรีเตอร์ของ Cartier ทำให้ขนาดและน้ำหนักของค้อนตีมีน้ำหนักที่ลดลงโดยไม่ลดทอนเสียงในการตีบอก Rotonde de Cartier Minute Repeater Flying Tourbillon ใช้กลไกลคาลิเบอร์ 9402 MC ด้วยส่วนประกอบ 447 ขิ้นทำงานด้วยระบบไขลานฟลานอิ้งตูร์บิยอง กลไกทั้งหมดได้รับตราเครื่องหมาย Geneva Seal เพื่อบอกถึงความยอดเยี่ยมในการประกอบและขัดแต่ง พลังงานสำรอง 50 ชั่วโมง

ขอบคุณ Issue 51

 Tel: 081-274-7506

Line : @rolex99

กดลิงค์เพื่อเข้า Line : @rolex99

www.รับซื้อนาฬิกา.com